ท้องอืดทำไง ? อาการที่เกิดขึ้นแล้วมักจะทำให้หลาย ๆ คนเกิดความรู้สึกไม่สบายท้องและไม่สบายตัวทุกที นับว่าเป็นปัญหาที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอาการท้องอืดเกิดจากอะไรจึงทำพฤติกรรมแบบเดิม ๆ ให้อาการเกิดขึ้นได้แบบซ้ำ ๆ วันนี้เราจะพาคุณมาดูกันว่าทำไมถึงเกิดอาการท้องอืดได้? และท้องอืดรักษาได้อย่างไรมานั้นมาดูกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องอืด
อาการท้องอืดมักมีปัจจัยหลักมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ภายในร่างกายและมีแก๊สในระบบทางเดินอาหารมากกว่าปกติเนื่องจากอาหารไม่สามารถย่อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการกลืนอาการเข้าไปในขณะที่กำลังรับประทานอาหารก็ก่อให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนมักจะมีอาการนั้นมาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- การเคี้ยวหมากฝรั่ง
- การสูบบุหรี่จัด
- ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารเร็วเกินไปหรือรับประทานไปพูดไป
- การดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เยอะ วิธีแก้ท้องอืดหลังดื่มเบียร์
- การกินอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น บรอกโคลี หัวหอม ดอกกะหล่ำ ลูกเกด ถั่ว
- มีการสะสมของแก๊สเป็นจำนวนมาก
- มีความเครียดและการวิตกกังวล
- การรับประทาน ซอร์บิทอล (Sorbitol)
แต่นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ปัญหาทางด้านสุขภาพอื่น ๆ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท้องอืดได้ด้วยเหมือนกัน อาทิเช่น มีภาวะลำไส้แปรปรวน เกิดภูมิแพ้อาหาร ฮอร์โมนแปรปรวน มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เกิดเนื้องอกในช่องท้อง เกิดภาวะที่อาหารเข้าไปสู่กระเพาะอย่างรวดเร็ว หรือร่างกายมีการดูดซึมอาหารที่ผิดปกติ หรือลองสังเกต อาการปวดท้องข้างซ้ายบ่อย ๆ
ท้องอืดทำไง ? 8 วิธีแก้อาการท้องอืด
1. เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ถือว่าเป็นสิ่งที่แก้อาการได้อย่างตอบโจทย์มากที่สุดเพราะหลัก ๆ แล้วอาการเหล่านี้ก็มักจะเกิดขึ้นจากนิสัยการกินของแต่ละคนนั่นเอง หากคุณไม่อยากเกิดอาการท้องอืดบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในปริมาณที่เยอะจนเกินไป เคี้ยวอาหารให้ช้าลง และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊สสูง ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงของหมักของดองด้วย หากคุณหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ได้ก็จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดภาวะท้องอืดได้มากเลยทีเดียว หรือคุณอาจสนใจ การกินอาหารแบบคีโต
2. หมั่นรับประทานโพรไบโอติกส์
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่อยู่ในร่างกายของเราทุกคนโดยจะอาศัยอยู่ที่ลำไส้ มันจึงมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารภายในร่างกายได้ ทำให้ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องเสีย และโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากระบบย่อยอาหารได้ ซึ่งโพรไบโอติกส์นี้ก็สามารถหามารับประทานได้ง่ายเพราะมีอยู่ทั่วไปในนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ยิ่งรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้ป้องกันการเกิดปัญหาท้องอืดได้เป็นอย่างดี
3. นวดกดจุด
การนวดกดจุด เป็นศาสตร์แพทย์แผนโบราณที่ในปัจจุบันนี้หลายคนก็ยังคงนิยมใช้กันอยู่ หากนวดอย่างถูกวิธีมันจะสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคที่เกี่ยวกับอาหารไม่ย่อยได้เป็นอย่างดี โดยการแพทย์แผนโบราณได้ให้คำแนะนำว่าการนวดที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ก็คือการนวดแบบ “จุดจงหว่าน” โดยจุดนี้จะอยู่บริเวณกึ่งกลางลำตรงที่หน้าท้องเหนือสะดือขึ้นไปประมาณ 4 นิ้ว และการนวดอีกแบบก็คือ “จุดจู๋ซานหลี” จะอยู่บริเวณหน้าแข้งของขาทั้งสองข้างใต้สะบ้าหัวเข่าประมาณ 3 นิ้ว และจุดสุดท้ายคือ “จุดเน่ยกวน” บริเวณแขนด้านในใต้เส้นข้อมือประมาณ 2 นิ้ว หากคุณนวดคลึงเบา ๆ บริเวณจุดเหล่านี้ประมาณ 3-5 นาทีหลังรับประทานอาหาร จะช่วยลดการเกิดอาการท้องอืดหรือจุกเสียดแน่นท้องได้
4. ดื่มเครื่องดื่มจากธรรมชาติ
เครื่องดื่มจากธรรมชาติบางอย่างก็สามารถช่วยลดภาวะท้องอืดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งน้ำมะนาว ชาคาโมมายล์ หรือน้ำขิงก็ตาม เพราะสรรพคุณของเครื่องดื่มเหล่านี้สามารถช่วยขับลม เป็นยาระบาย ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร รวมถึงยังสามารถแก้อาการท้องอืดได้อย่างรวดเร็วทันใจอีกด้วย
5. รับประทานสมุนไพร
ปัจจุบันนี้มีสมุนไพรหลายตัวที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น ตะไคร้ ขิง เปปเปอร์มินต์ สเปียร์มินต์ เนื่องจากสมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังช่วยลดอาการอักเสบในช่องท้องได้ด้วยเช่นกัน
6. รับประทานผักและผลไม้ที่มีส่วนช่วยแก้อาการ
การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ นอกจากจะช่วยเสริมสุขภาพในด้านอื่น ๆ แล้วก็ยังสามารถช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วยเช่นเดียวกัน หากคุณรับประทานมื้อหนัก ๆ การกินผลไม้จำพวกสับปะรดหรือมะละกอสุกจะช่วยลดอาการแน่นท้องได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนอยู่ตามธรรมชาติ นอกจากนี้การรับประทานกล้วยหอมหรือมะเขือเทศก็ช่วยลดการจุกเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดีเหมือนกัน
7. รับประทานยา
ผู้ที่มีอาการท้องอืดส่วนใหญ่มักจะได้รับยา ไซเมทิโคน (Simethicone) หรือ ดอมเพอริโดน (Domperidone) เพราะการออกฤทธิ์ของยาทั้งสองตัวนี้คือจะเข้าไปช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยในด้านการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อาการและแก๊สเคลื่อนตัวไปยังระบบย่อยอาหารได้เร็วขึ้นจึงช่วยบรรเทาภาวะท้องอืดได้เป็นอย่างดี
8. งดเคี้ยวหมากฝรั่ง
รู้หรือไม่ว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมก็สามารถทำให้ท้องอืดได้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมอยู่นั้น ร่างกายจะกลืนอากาศเข้าไปมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้
ท้องอืดทำไง ? หากคุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและลดอาหารจำพวกที่จะก่อให้เกิดอาการท้องอืดไปได้ก็จะทำให้คุณเกิดภาวะเหล่านี้ได้น้อยลง แต่หากคุณลองเปลี่ยนพฤติกรรมหรือประทานเครื่องดื่มสมุนไพร รวมถึงยาที่ช่วยลดอาการท้องอืดแล้วแต่ยังไม่หายดีและเป็นติดต่อกันนานหลายวัน ควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากอาจเป็นโรคอื่น ๆ แทรกซ้อนได้เพื่อที่จะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
อ้างอิง
- วิธีแก้ท้องอืดให้ได้ผล. https://www.pobpad.com/วิธีแก้ท้องอืดให้ได้ผล
- 6 Tips แก้ปัญหา ท้องอืด ด้วยธรรมชาติ. https://biopharmshop.com/แก้อาการท้องอืด/